See the original English version of this article here

เคล็ดลับเติบโตในสาย Developer แบบที่ไม่ได้สอนใน LinkedIn ตั้งแต่การเป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วสบายใจ ไปจนถึงทักษะสัมภาษณ์ที่สามารถเพิ่มรายได้หลายเท่า กับ คำแนะนำอาชีพ Developer ที่ไม่มีในตำรา แต่ใช้ได้จริง
คุณ Brian Jenney อยากแชร์คำแนะนำด้านอาชีพ สิ่งที่เขาใช้เวลาหลายปีถึงจะเข้าใจ และบรรดากูรูบน LinkedIn ไม่มีวันบอกคุณ เพราะจริง ๆ แล้ว…พวกเขาไม่เข้าใจโลกของคนเปลี่ยนสายงาน
คุณ Brian เข้าสู่วงการเทคแบบคนนอกสุด ๆ ไม่มีวุฒิการศึกษา Computer Science ไม่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง แถมก่อนงานแรกยังถูกครอบครัวจัด “การแทรกแซง” ให้ปรับชีวิตอีกต่างหาก (และเขายังไม่ชอบเล่นเกมด้วย) แต่แค่ 7 ปี เขาก็เติบโตจนเป็น Engineering Manager ทำงานกับ Start-up หลายแห่งใน Bay Area
ปัญหาคือ หลายคน รวมถึงคุณด้วย อาจกำลังวางแผนอาชีพด้วยคู่มือที่ล้าสมัยแล้ว มาเริ่มกันเลย!
คำแนะนำดี ๆ บางทีก็พาเราหลงทาง
คำแนะนำอาชีพส่วนใหญ่บนอินเทอร์เน็ตคือคำสวย ๆ ที่ฟังแล้วดี แต่เขียนโดยคนที่…
- ไม่เคยทำงานเป็น Developer จริง ๆ
- ทำงานในองค์กร Tech ยักษ์ใหญ่ที่โครงสร้างชัดเจน
- มาจากเส้นทางอาชีพแบบดั้งเดิม (จบ Computer Science หรือเขียน Code มาตั้งแต่วัยรุ่น)
คำแนะนำพวกนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่โอกาส “ใช้ได้จริง” สำหรับคนเปลี่ยนสายงานหรือคนอยู่นอก Big Tech นั้นน้อยมาก คุณ Brian เคยทำผิดพลาดไม่รู้กี่ครั้ง และเรียนรู้มหาศาลจากเส้นทางชีวิต และนี่คือสิ่งที่ คุณ Brian อยากให้มีใครบอกเขาตั้งแต่แรก:
Be Likable และ Be Undeniable
(เป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วรู้สึกดี… แล้วค่อยเก่งทีหลัง)
ในระดับ Junior คุณไม่ได้แข่งเรื่องทักษะกับ Mid-level หรือ Senior Engineer คุณกำลังแข่งเรื่อง “การสื่อสาร ความชัดเจน ความยืดหยุ่น และพลังบวก” พูดง่าย ๆ คือ เป็น “Personality Hire” ได้ ไม่ผิด และจริง ๆ ควรเป็นด้วย “Personality Hire” หมายถึง คุณมีศักยภาพ และคนอยากทำงานด้วย
เวลาคนพูดว่า “น่าเอ็นดู / น่าทำงานด้วย” จริง ๆ แล้วเขาหมายถึงว่า:
- คุณอธิบายความคิดของคุณชัดเจนไหม
- รับ Feedback ได้ไหม
- สื่อสารเรื่องเทคนิคแบบมนุษย์ได้ไหม
- คุณทำให้บรรยากาศในห้องสงบขึ้นหรือเปล่า
คนใจดีหลายคน พอขึ้นโต๊ะสัมภาษณ์กลับพังทันที เนื่องจาก พูดติดขัด ยืดเยื้อ ตั้งรับแบบปกป้องตัวเอง ซึ่งฆ่าโอกาสเร็วกว่าการเขียน Code ไม่เป็นหลายเท่า
อยากพัฒนาด่วน แนะนำให้ทำแบบนี้:
- อัดวิดีโออธิบาย Concept เทคนิคสักเรื่อง
- ดูตัวเอง… จะเจ็บนิดหนึ่ง แต่มันช่วย
- เปิดกล้องบ่อย ๆ
- วิดีโอตื่นเต้น = สัมภาษณ์ตื่นเต้น
- เรียนรู้ภาษาของ Developer
- อ่านหนังสือ 1 – 2 เล่ม เช่น Clean Code, The Phoenix Project และทำความรู้จัก Design Patterns พื้นฐาน
ตอนเริ่มต้น “ความน่าเอ็นดู” เพียงพอ แต่สุดท้ายคุณต้อง “เก่งจริง”
พิสูจน์ให้ตัวเองก่อนว่านี่ไม่ใช่เรื่องฟลุค นั่นคือการรับงานที่ไม่มีใครอยากทำ เรียนรู้ระบบน่าเบื่อที่ไม่มีใครแตะ และเป็นคนที่คอยปลดบล็อกทีมแบบเงียบ ๆ งานแรกของคุณมีไว้เพื่อ “เรียนรู้” และ “ยืนยันตัวตน” ไม่ใช่เพื่อชิล
ทักษะที่ได้เงินเยอะที่สุด… และคุณยังไม่มี
(ทักษะสัมภาษณ์ > ทักษะเขียน Code)
นี่คือความจริงอันโหดร้าย:
การสัมภาษณ์ คือทักษะที่ทรงพลังที่สุดในการเพิ่มรายได้ของ Developer
มันเปิดโอกาส เสริมความมั่นใจ ทำให้คุณทนต่อภาวะ Layoff และเพิ่มรายได้ได้เร็วที่สุด ยิ่งคุณยอมรับเร็วแค่ไหน คุณก็จะโตเร็วเท่านั้น
อัตราผ่านต่ำเป็นเรื่องปกติ การสัมภาษณ์คือ “เกมปริมาณ” คุณ Brian ไม่ได้เก่ง เพราะมีพรสวรรค์ เขาเก่งเพราะทำ Mock Interview บน Pramp.com เป็นสิบ ๆ ครั้ง และเรียนหนักมาก คุณ Brian อ่าน System Design ของ Alex Xu เขียน Data Structures ขึ้นมาใหม่ ฝึกใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ AlgoExpert ดีมาก (NeetCode ก็ยอดเยี่ยม) แต่สิ่งที่ช่วยที่สุด คือ Mock Interview มันทำให้เขาพร้อมในวันจริง คุณ Brian เห็นหลายคนเพิ่มรายได้ 10K… 20K… ถึง 50K ดอลลาร์สหรัฐ แค่เพราะสัมภาษณ์เก่งขึ้นนิดเดียว ส่วนเขาเพิ่มเงินเดือน 400% ด้วยการสัมภาษณ์ที่เก่งขึ้น (จริง ๆ) ข่าวร้าย (แต่จำเป็นต้องรู้):
คุณควรสัมภาษณ์ทุก 6 เดือน แม้จะมีงานอยู่แล้ว
เพื่อรู้ว่า:
- คุณถูกจ่ายน้อยไปไหม
- คุณถูกจ่ายเกินจริงไหม
- ทักษะคุณยังเป็นที่ต้องการหรือเปล่า
- คุณปลอดภัยในภาวะเศรษฐกิจตกหรือไม่
- คุณยังมีทางเลือกไหมในวันที่จำเป็นหรือไม่
เวลาที่ดีที่สุดในการสัมภาษณ์คือ “ตอนมีงาน” เวลาที่แย่ที่สุดคือ “ถูก Layoff แล้ว”
จงเป็น Influencer
ใช่ คุณ Brian หมายถึงแบบออนไลน์ด้วย และในที่ทำงานด้วย เขากลายเป็น Tech Influencer (ยังตกใจตัวเองอยู่) เพราะชอบเขียน และมีธุรกิจต้องดูแล มันเปิดโอกาสมหาศาล: ขายสินค้า สร้างธุรกิจ ขยายแบรนด์บน LinkedIn แน่นอนมีข้อเสีย บางบริษัทปฏิเสธทันทีที่รู้ว่าเขามีธุรกิจ หรือไม่ชอบสิ่งที่เขาเขียน แต่การเขียนออนไลน์ให้ประโยชน์ 99% ลองแชร์สิ่งที่คุณกำลังเรียนรู้ อย่ากลัวก็พอ แต่จำสิ่งนี้:
ไม่จำเป็นต้องเป็น Content Creator
แต่ควร “มีอิทธิพล” ที่ทำงาน Influence เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ:
- ถามคำถามในการประชุม
- อาสานำ Project เล็ก ๆ
- เงาตามคนทำงานสำคัญ
- เลียนแบบนิสัยคนเก่งในทีม
- ปรับปรุง Process / Culture / Docs / Onboarding
- นำ Stand-up Meeting
นี่คือการฝึกภาวะผู้นำก่อนมีตำแหน่ง นี่คือวิธีที่คนอื่นไว้ใจคุณ
ตำแหน่งโดยไม่มีอิทธิพล = Manager ที่ไม่มีใครเคารพ ดังนั้น อิทธิพลมาก่อน ตำแหน่งมาทีหลัง
Loyalty นั้นถูกประเมินค่าสูงเกินไป
(และ Resume-driven Development ไม่ได้เลวร้าย)
ช่วงต้นอาชีพ เปลี่ยนงานบ้างได้ มันเพิ่มเส้นรายได้เร็วมาก แต่สุดท้ายคุณต้องอยู่ในที่หนึ่งนานพอ
เพื่อเห็นว่าการตัดสินใจของคุณออกดอกผลอย่างไร นั่นคือการเติบโตจริง การได้เลื่อนตำแหน่งจากข้างในยังง่ายกว่า แล้วค่อยเอาตำแหน่งนั้นไปต่อยอดที่อื่น กฎส่วนตัวของคุณ Brian:
ออกงานได้เมื่อคุณสร้าง Impact ใหญ่พอจะเขียนลง Resume
ผลลัพธ์ที่วัดได้ การพัฒนาครั้งใหญ่ การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม และ Feature ที่มีผลจริง มี 2 อย่างนี้เมื่อไร ไปต่อได้ ถึงแม้อยู่แค่ 9 เดือน ดังนั้น Resume-driven Development ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าทำอย่างมีจริยธรรม มันช่วยให้คุณเลือก Project ที่พัฒนาคุณที่สุด ทีมก็ได้ประโยชน์ด้วย
สุดท้าย: เป็นคนธรรมดาก็ไม่ผิด
(ทำไมต้องไล่ตามสิ่งที่เราไม่ได้ต้องการจริง?)
บทความนี้เขียนสำหรับคนที่อยากโตเร็ว ได้เงินมากขึ้น ซึ่งอาจเครียดและต้องคิดหนักว่ามันคุ้มหรือไม่
จริง ๆ ตอนคุณ Brianเริ่มเขียน Code เป้าหมายของเขาคือ “เป็นแค่ Developer ธรรมดา” และนั่นไม่ใช่เป้าหมายที่แย่เลย Developer ทั่วไปทำให้ระบบเดินต่อ เขียน Feature แก้ Bug ไม่ต้องทำงานเสาร์อาทิตย์หรือสร้าง Project เสริม และอาจมีความสุขกับชีวิตมากกว่า
แต่ถ้าคุณอยากโตเร็ว อยากมีทางเลือก อยากมีรายได้ที่ดีขึ้น การเล่นแบบ “ปลอดภัย” คือความเสี่ยงสูงที่สุด สิ่งที่ใช้ได้จริงในชีวิต มักตรงข้ามกับสิ่งที่ฟังดูดีบน LinkedIn โชคดีกับเส้นทางที่คุณเลือกนะคะ
ถ้าคุณจริงจังกับการเปลี่ยนสายงาน ลองติดต่อ ISM Technology Recruitment ฝากเรซูเม่ คลิกเลย!
และทั้งหมดนี้ก็คือ คำแนะนำอาชีพ Developer ที่ไม่มีในตำรา แต่ใช้ได้จริง
เมื่อ หางาน IT ให้ ISM Technology Recruitment เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพื่อให้คุณได้ “ชีวิตการทำงานในแบบที่คุณต้องการ” เพียงส่ง Resume มาที่นี่
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ ได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย
Source: https://brianjenney.medium.com